ชวนคุยก่อนเกม: สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบ ยูโร 2024
เริ่มจะเห็นหน้าค่าตาของบรรดาทีมที่จะได้ไปลุยศึก ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมัน ในช่วงกลางปีหน้ากันบ้างแล้วนะครับ สถานการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น อ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ
สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนั้น มีทีมที่จะได้เล่นรอบสุดท้ายทั้งสิ้น 24 ทีม แน่นอนว่าชาติแรกที่การันตีได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ก่อนใครเพื่อนคือทัพ ‘เมืองเบียร์’ ซึ่งไม่อยากจะคิดเหมือนกันว่าถ้าไม่ได้เป็นเจ้าภาพ สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้จะเป็นเช่นไร เพราะผลงานอุ่นเครื่องในช่วงที่ผ่านมา ล้มเหลวจนถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งเฮดโค้ช
สำหรับรอบแบ่งกลุ่มนั้นทาง ยูฟ่า ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 กลุ่ม โดยอันดับที่ 1-2 นั้นจะได้ผ่านเข้ารอบโดยทันที และหากมีคะแนนเท่ากันจะตัดสินกันที่การพบกันแบบ เฮดทูเฮด ก่อนประตูได้เสีย ซึ่งสถานการณ์ของแต่ละกลุ่มในช่วงนัดสุดท้ายเป็นดังนี้
กลุ่ม A: สเปน จับมือกับ สก็อตแลนด์ เข้ารอบไปแบบสบายๆ
กลุ่ม B: ฝรั่งเศส การันตีเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม อันดับสองอย่าง เนเธอร์แลนด์ มีแต้มมากกว่า กรีซ อยู่ 3 คะแนน แต่เอาชนะมาได้ทั้งสองนัด ส่งผลให้ได้ไปเยอรมันเช่นกัน
กลุ่ม C: อังกฤษ เข้ารอบเป็นที่หนึ่ง ส่วนตั๋วอีกใบ อิตาลี มีคะแนนเท่ากับ ยูเครน และจะตัดเชือกกันในค่ำคืนนี้ ซึ่งทางด้าน ยูเครน จำเป็นต้องชนะสถานเดียว เนื่องจากแพ้มาในนัดแรก
กลุ่ม D: ตุรกี ตีตั๋วไปก่อนใครเพื่อน ส่วนโครเอเชีย จะได้กุมชะตาตัวเอง เพราะขอเพียงแค่ชนะ อาเมเนีย ก็จะได้ตามเข้าไป แต่ถ้าหากสะดุดขึ้นมาแล้ว เวลส์ เอาชนะจ่าฝูงได้ ทัพตราหมากรุก จะต้องไปเหนื่อยกันต่อในรอบเพลย์ออฟ
กลุ่ม E: ยังมีลุ้นเข้ารอบถึง 3 ทีม แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับ แอลเบเนีย ที่จะเปิดบ้านพบกับ หมู่เกาะฟาโรห์ ส่วน สาธารณรัฐเช็ค กับ มอลโดว้า จะได้ตัดกันเอง ซึ่งเจ้าบ้านขอแค่ไม่แพ้ก็เพียงพอ
กลุ่ม F: ออสเตรีย ควง เบลเยียม สอนบอลชาติอื่นนอนเล่นเข้ารอบได้เลย
กลุ่ม G: ฮังการี และ เซอเบีย เกี่ยวก้อยไปเยอรมันเช่นกัน
กลุ่ม H: เดนมาร์ค เข้ารอบไปแล้ว ส่วนอีกคู่ สโลวีเนีย จะเปิดบ้านต้อนรับ คาซัคสถาน โดยผลเสมอนั้นเป็นการแข่งขันที่เพียงพอสำหรับเจ้าถิ่น
กลุ่ม I: โรมาเนีย และ สวิสเซอร์แลนด์ ควงแขนกันเข้ารอบเช่นกัน
กลุ่ม J: โปรตุเกส ชนะรวดใน 9 นัดก่อนหน้านี้ ส่วน สโลวาเกีย ก็แต้มห่างจากอันดับ 3 มากพอที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
เมื่อการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้น จะได้ทีมเข้ารอบรวม 21 ทีม ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ จะไม่ได้นำอันดับที่ 3 ของแต่ละกลุ่มมาแข่งขันกันอีกครั้ง แต่จะเป็นนำทีมชาติทั้งหมดที่ยังไม่ผ่านเข้ารอบ มาเรียงลำดับ 1-12 จากการแข่งขัน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และจะมีเพียงแค่แชมป์กลุ่มเท่านั้นที่จะได้ไปโชว์ฝีเท้าที่ประเทศเยอรมัน
เหมือนว่าฟุตบอลโลก จะเพิ่งจบไปหยกๆ เพราะกระแสยังคงไม่จางหาย เห็นได้ชัดจากที่ ลิโอเนล เมสซี่ เพิ่งจะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ไป แต่อีกแค่ไม่กี่เดือน เราก็จะได้ไปลุ้นในศึก ยูโร 2024 กันต่อ อดใจรออีกแค่อึดใจเดียวเท่านั้นครับ
เขียนโดย The Lite Team.